คลอโรพลาสต์ ( chloroplast) 
คลอโรพลาสต์ส่วนใหญ่มีรูปร่างกลมรี มีขนาดยาวประมาณ 5 ไมโครเมตร กว้าง 2 ไมโครเมตร และหนาประมาณ 1-2 ไมโครเมตร พบมากในเซลล์ของใบพืช แต่ละเซลล์จะมีจำนวนคลอโรพลาสต์แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์และชนิดของพืช
คลอโรพลาสต์เป็นออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น ภายในเป็นของเหลว เรียกว่า สโตรมา (stroma) เยื่อหุ้มชั้นในของคลอโรพลาสต์ยื่นเข้าไปข้างในกลายเป็นโครงสร้างย่อย ๆ ที่เป็นเยื่อบาง ๆ เรียกว่า ลาเมลลา (lamella) ซึ่งส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นแผ่นกลมแบนบาง ๆ และเรียงซ้อนกันเป็นตั้ง แต่ละตั้งเรียกว่า กรานุม (granum, พหูพจน์เรียกว่า กรานา : grana) ในคลอโรพลาสต์ที่เจริญเต็มที่แล้วจะมีประมาณ 40 – 60 กรานา แต่ละชั้นของ กรานุม เรียกว่า ไทลาคอยด์ (thylahoid) โดยมีเยื่อส่วนที่ไม่ซ้อนทับกันและเชื่อมต่อกันระหว่างกรานุม เรียกว่า อินเตอร์กรานา (intergrana) หรือ สโตรมาลาเมลลา (stroma lamella) หรือ สโตรมาไทลาคอยด์ (stroma thylakoid)
ไทลาคอยด์มีลักษณะเป็นถุงมีช่องว่างเล็ก ๆ เรียกว่า ลูเมน (lumen) ซึ่งมีของเหลวที่        ประกอบด้วยเอนไซม์ต่าง ๆ อยู่ภายใน ที่ผิวหน้าของไทลาคอยด์มีสารสีรวมทั้งคลอโรฟิลล์อยู่รวมกันเป็นเม็ดหรือกรานูล (granule) อยู่จำนวนมาก มีทั้งเม็ดขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งแกรนูลที่มีขนาดใหญ่เป็นบริเวณที่มีการดูดรับพลังงานแสงมาใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ส่วนแกรนูลที่มีขนาดเล็กคาดว่าเป็นที่อยู่ของเอนไซม์ชนิดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอนในปฏิกิริยาที่ใช้แสง
นอกจากนี้ ภายในคลอโรพลาสต์ยังมี DNA RNA และไรโบโซมอยู่ด้วย ทำให้คลอโรพลาสต์สามารถจำลองตัวเองได้ และผลิตโปรตีนไว้ใช้ในคลอโรพลาสต์ได้เองคล้ายกับไมโทคอนเดรีย  ส่วนในพืชบางชนิดอาจพบเม็ดแป้งและเม็ดไขมันอยู่ภายในสโตรมาอีกด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น